การค้าออนไลน์ในบาห์เรน New Normal ใหม่ที่มาแรง

                       ไม่สามารถจะปฏิเสธได้เลยว่า จากสถานการณ์การระบาดของโรคไวรัสปอดอักเสบอย่างรุนแรง หรือที่รู้จักกันในนามว่าไวรัส COVID- 19 ที่เริ่มขึ้นตั้งแต่ต้นปี 2563 ได้มีผลกระทบอย่างใหญ่หลวง ไม่เพียงแต่ด้านสุขภาพ เศรษฐกิจ แต่ยังรวมถึงการดำรงชีวิตประจำวัน และการปฏิบัติตัวอย่างไรเพื่อให้ปลอดภัยและหลีกเลี่ยงจากการติดเชื้อโรคดังกล่าว การไปจับจ่ายซื้อหาสิ่งของ การจับต้องสัมผัสธนบัตร การไปอยู่ท่ามกลางผู้คน ฯลฯ สิ่งต่างๆ เหล่านี้ ล้วนแต่เป็นปัจจัยเสี่ยง และนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงการดำเนินชีวิตในวิถีใหม่หรือที่เรียกกันว่า new normal

                       การดำเนินธุรกิจก็เช่นเดียวกัน และเป็นที่ยอมรับกันว่าจากปัจจัยเสี่ยงดังกล่าว ซึ่งบางครั้งทำให้เกิดการ “ปิดเมือง” จำกัดการเคลื่อนไหว จึงทำให้การดำเนินธุรกิจการค้าในระบบออนไลน์ได้รับความนิยมขึ้นมาอย่างก้าวกระโดด ในบาห์เรนก็เช่นเดียวกัน จากข้อมูลที่สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ศึกษาเบื้องต้น พบประเด็นที่น่าสนใจดังนี้ 

                         ก่อนเกิดวิกฤติการณ์โรคระบาดโควิด-19  ประเทศที่มีมูลค่าการทำธุรกรรมออนไลน์สูงสุดคือ จีน สหรัฐฯ และญี่ปุ่นตามลำดับ โดยประเทศบาห์เรนติดลำดับที่ 90 ของโลก  เมื่อสิ้นปี 2019 ประเมินว่ามีการทำธุรกรรมออนไลน์ในบาห์เรนมูลค่า 348 ล้าน รอ. สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 21.2 จากปี 2018  ปัจจุบัน บาห์เรนมีผู้ใช้อินเตอร์เน็ต (user)ที่สามารถเข้าถึงธุรกรรมออนไลน์ 1 ล้านคน (ประชากรในบาห์เรน มีประมาณ 1.6 ล้านคน) หรือคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 60%

                          ปัจจุบันในบาห์เรน มีบริษัทที่จดทะเบียนประกอบธุรกรรมออนไลน์หลายบริษัท แต่บริษัทที่มีขนาดใหญ่เป็นลำดับที่ 1 ในบาห์เรน ได้แก่ บริษัท Wafi จากข้อมูลที่เปิดเผยของบริษัท พบว่า บริษัทเปิดดำเนินการในปี 2016 และธุรกิจได้ขยายตัวอย่างรวดเร็ว โดยมีผู้ติดตามทางเวปไซด์บริษัทถึงหนึ่งแสนคน โดยมีสมาชิกลงทะเบียน (subscriber) application ของ wafi 40,000 คน มีลูกค้าประจำ 48,000 คนที่สั่งซื้อสินค้าออนไลน์จากบริษัท  Wafi สามารถครอบครองตลาดสินค้าออนไลน์เกือบร้อยละ 60 ของบาห์เรน   (ไม่นับรวมบริษัทที่มีหน้าร้านและขายออนไลน์ด้วยอาทิ คาร์ฟู,  LuLu,  Sharaf  ฯลฯ)   Wafi ทำการออนไลน์สินค้าต่างๆ อย่างหลากหลายทั้งเครื่องอุปโภคบริโภค เครื่องใช้ในครัวเรือน เครื่องสำอางค์และผลิตภัณฑ์เสริมสวย น้ำหอม ผลิตภัณฑ์สำหรับเด็ก ของเล่น เฟอร์นิเจอร์ เครื่องไฟฟ้า เครื่องเสียง โทรทัศน์ โทรศัพท์มือถือ เสื้อผ้า รองเท้า ฯลฯ    ในช่วงห้าเดือนแรกของปี 2563 เมื่อเกิดสถานการณ์โรคระบาดและธุรกิจต่างๆ ในบาห์เรนจำนวนมากต้องปิดตัวลงชั่วคราว  Wafi กลับสามารถเพิ่มยอดขายสินค้าออนไลน์ได้ถึง 300 %  และในเดือนกรกฎาคม 2563  Wafi จะทำการตลาดโดยจัดตั้งสาขาในประเทศกาตาร์ ยูเออี (สำนักงานอาบูดาบี) ซาอุดีอาระเบีย (สำนักงานเมืองดัมมัม) เพิ่มจากธุรกิจของตนในบาห์เรนด้วย   

                          โอกาสและความท้าทายของการนำสินค้าไทยเข้าระบบออนไลน์ในบาห์เรน

                          ผู้แทนบริษัท Wafi เคยมาพบ / หารือ แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นกับสถานเอกอัครราชทูต โดยแจ้งให้ทราบว่า ในส่วนของสินค้าไทย บริษัท Wafi เคยนำผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ อาทิ เครื่องนวดเท้า ซึ่งขายได้ดีมาก  สำหรับสินค้าอุปโภค ก็ได้มีการนำมาจำหน่ายทางระบบออนไลน์สำหรับบางประเภทที่ได้รับความนิยม อาทิ  ข้าวหอมมะลิ เครื่องปรุงรสของไทย ขนมขบเคี้ยวหรือถั่วชนิดต่างๆ  และเห็นว่าสินค้าไทยมีคุณภาพดีกว่าสินค้าจากต่างประเทศชนิดเดียวกัน และน่าจะมีโอกาสการทำตลาดมากกว่านี้ อย่างไรก็ดี บริษัทพบว่าอุปสรรคทางด้านการสื่อสารเป็นปัญหาในการติดต่อ ซึ่งนับว่าเป็นความท้าทายที่จะต้องผ่านพ้นให้ได้หากจะนำสินค้ามาเข้าสู่ระบบออนไลน์ ทั้งนี้ ใน platform ของบริษัท มีทั้งภาษาอังกฤษ และภาษาอารบิค และพบว่า ส่วนใหญ่ลูกค้าจะใช้ภาษาอังกฤษในการติดต่อ จึงไม่น่าจะเป็นปัญหาสำหรับผู้ที่ไม่ถนัดด้านภาษาอารบิค   ขณะนี้ บริษัท Wafi ได้วางกลยุทธ์ในการส่งเสริมตลาด โดยเน้นให้ความสำคัญกับผู้ประกอบการในบาห์เรนเป็นเบื้องต้น และหากผู้ประกอบการธุรกิจ SMEs ของไทยในบาห์เรนมีความประสงค์ต้องการจะนำสินค้า ผลิตภัณฑ์มาร่วมจำหน่ายในระบบออนไลน์ของบริษัท  โปรดติดต่อและดูรายละเอียดได้ที่ Website: www.wafiapps.com